วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

สัปดาห์ที่ 4

บันทึกอนุทินครั้งที่ 4
วันอังคารวันที่  27  มกราคม  พ.ศ. 2558
เวลาเรียน  14.10-17.30  น.



Photobucket - Video and Image Hosting


กิจกรรมวันนี้

 วันนี้อาจารย์สอนเรื่อง การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย 
ระหว่างการเรียนร่วมกับการเรียนรวมแตกต่างกันอย่างไร วิธีการสอนเป็นอย่างไร 
ความหมายของการเรียนรวม เป็นการสอนชดเชยสัปดาห์ที่แล้วที่อาจารย์ไม่ได้มาสอน


ความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วม 
   เป็นการจัดการศึกษาที่ให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป มีกิจกรรมที่ให้เด็กทั่วไปกับเด็กพิเศษทำร่วมกัน ครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกันดูแลเด็ก
แบ่งได้ 2 ประเภท การเรียนร่วมบางเวลาและการเรียนร่วมเต็มเวลา   การเรียนร่วมบางเวลาเด็กจะมาทำกิจกรรมแค่ในวิชาหรือเวลาที่มีกิจกรรมและก็กลับเข้าห้อง  

ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม
   เป็นการศึกษาสำหรับทุกคน โดยเด็กจะเข้ามาเรียนรวมได้รับการศึกษาตั้งแต่เริ่มแรก จัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคลเด็กควรได้รับโอกาสในการเรียนรู้อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองจะเป็นคนพามาและดูแลเด็กเองโดยไม่พึ่งครู อาการของเด็กเหล่านี้จะน้อยกว่าเด็กเรียนร่วม ตัวเด็กและผู้ปกครองจะเป็นคนเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก

ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวม คือ 
- ปฐมวัยเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดของการเรียนรู้ 
- สอนได้ 
- จัดการศึกษาสำหรับเด็กพิเศษที่ีมีขีดจำกัดน้อยที่สุด

ปรัชญาของการเรียนรวม
เด็กปกติต้องเข้าใจว่ามนุษย์เกิดมาไม่เท่าเทียมกันแต่มีสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน

'Inclusive Education is Education for all
It involves receiving people
at the beginning of their education,
with provision of additional services
needed by each individual"


การศึกษาแบบเรียนรวมเป็นการศึกษาสำหรับทุกคน 
ที่เด็กทุกคนควรได้รับการศึกษาขั้นต้น (เด็กอนุบาล)
เด็กแต่ละคนมีความต้องการต่างกันเฉพาะบุคคลที่
เราต้องจัดให้เหมาะสมกับเด็กเฉพาะบุคคล

จบเรื่องนี้อาจารย์ก็มีคำถาม Post Test เผื่อทบทวนอีกรอบ





ก่อนจะเข้าสู่เรื่องใหม่ อาจารย์ให้วาดภาพดอกไม้
กลุ่มดิฉันได้รูปดอกชบา โดยวาดให้เหมือนจริงมากที่สุด
พร้อมเขียนคำบรรยายใต้ภาพ


กิจกรรมนี้เป็นอาจารย์จะดูการเขียนบรรยาย
เราควรเขียนตามความเป็นจริงไม่ใส่ความรู้สึกลงไป
ก็เหมือนกับการที่เราจะประเมินเด็กเราก็ไม่ควรใส่ความรู้สึกตัวเองลงไป


เรื่องต่อไปเรื่อง บทบาทของครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม  
    ครูไม่ควรวินิฉัยเด็ก อาการที่แสดงออกมานั้นอาจนำไปสู่ความเข้าใจจผิด ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือระบุประเภทเด็ก เช่น น้องซินนี่ น้องดาวน์ น้องเหยินเพราะชื่อเปรียบเสมือนตราประทับตัวเด็กตลอดไป
ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีอาการผิดปกติอย่างไร ครูควรพูดในด้านบวกของเด็ก รายงานว่าเด็กทำอะไรได้บ้างเท่ากับเป็นการบอกว่าเด็กทำอะไรไม่ได้ 

วิธีการสังเกตอย่างมีระบบ
   ครูต้องไวต่อความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้ ประเมินให้ความสำคัญของเรื่องต่างๆได้ พฤติกรรมของเด็กบางอย่างไม่ปรากฏให้เห็นเสมอไป   
การบันทึกการสังเกต
 - การนับอย่างง่ายๆ
 - การบันทึกต่อเนื่อง
 - การบันทึกไม่ต่อเนื่อง  

ตัวอย่างแบบบันทึกต่อเนื่องแบบเป็นคำๆ



ตัวอย่างแบบบันทึกไม่ต่อเนื่องแบบเป็นบัตรคำ เป็นการบันทึกสั้นๆของพฤติกรรมเด็ก



การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
        สามารถแยกแยะออกได้ชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของเด็กเรียนร่วมและเด็กเรียนรวม บางทีเวลาไปฝึกสอนเราก็ดูออกได้เลยว่าเด็กพิเศษที่เราเจอนั้นอยู่ในประเภทไหน ทำให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น นำไปประยุกต์ใช้ในการสอนได้ในอนาคต บทบาทของครูนั้นเป็นเรื่องที่เราต้องรู้เป็นอย่างมากเพราะเราเป็นครูเราต้องทำในสิ่งนี้ ความรู้ที่อาจารย์สอนในวันนี้ดีมากสำหรับตัวดิฉันทำให้เข้าใจในตัวเด็กพิเศษมากขึ้น


ประเมินตนเอง  :  วันนี้ตั้งใจเรียนพอสมควร  เข้าเรียนตรงเวลา  เข้าใจที่อาจารย์สอนเป็นอย่างดี มีคุยกับเพื่อนบ้างเล็กน้อย 

ประเมินเพื่อน   :  เพื่อนทุกคนตั้งใจฟังอาจารย์สอนและทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย  เพื่อนแต่งกายเรียบร้อย   เข้าเรียนตรงเวลา  

ประเมินอาจารย์  :  อาจารย์สอนเข้าใจง่าย มีการยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน  มีกิจกรรมให้ทำโดยไม่น่าเบื่อ กิจกรรมสอดคล้องกับเรื่องที่สอนเป็นอย่างดี 

                                                                                                         Photobucket - Video and Image HostingPhotobucket - Video and Image Hosting

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น